ต้อหิน (Glaucoma) ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยและคนทั่วโลกตาบอดมากที่สุด ซึ่งภาวะนี้เกิดจากความเสื่อมของขั้วประสาทตา ส่งผลให้ลานสายตาค่อย ๆ แคบลง ซึ่งหากไม่ได้การรักษาอย่างทันท่วงที อาจสูญเสียการมองเห็นได้ในที่สุด

ภาพแสดงลักษณะการมองเห็นของผู้ป่วย “ต้อหิน”

ลานสายตา (Visual field) คือ ขอบเขตพื้นที่การมองเห็นภาพทั้งหมดที่ดวงตาสามารถมองเห็นได้

“กิงโกะ” สมุนไพรทางเลือก ความหวังใหม่สำหรับผู้ป่วยต้อหิน

การรักษา “ต้อหิน” นอกจากอยู่ภายใต้การดูแลของจักษุแพทย์แล้ว ยังมีสมุนไพรจีนโบราณอย่าง “กิงโกะ” หรือ “แป๊ะก๊วย” ที่มีฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนเลือดทั้งระบบ จึงช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเส้นประสาทตาได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการฟื้นฟูขั้วประสาทตาที่เสียหายจากภาวะต้อหินได้

นอกจากนี้ ยังช่วยให้อาการลานสายตาที่ผิดปกติดีขึ้น และป้องกันตาบอดจากต้อหินได้อีกด้วย

งานวิจัยชี้! “กิงโกะ” ช่วยฟื้นฟูลานสายตาที่เสียหายจากต้อหินได้

การศึกษาในครั้งนี้ เป็นงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในประเทศอิตาลี ซึ่งได้ทำการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสารสกัดกิงโกะ ในการรักษาผู้ป่วย “ต้อหิน” โดยงานวิจัยมีวิธีการทดลอง ดังนี้

1. คัดเลือกอาสาสมัคร

คัดเลือกอาสาสมัครจำนวน 27 คน โดยมีเกณฑ์การคัดเลือกดังนี้

  • เพศชายและหญิง อายุระหว่าง 58-80 ปี
  • เป็นผู้ป่วยต้อหินมุมเปิดเรื้อรัง ชนิดที่มีความดันลูกตาปกติ (Normal-tension glaucoma; NTG) ที่ได้รับการวินิจฉัยว่า “ขั้วประสาทตาและลานสายตามีความเสียหาย”

2. แบ่งกลุ่มอาสาสมัคร

ทำการแบ่งกลุ่มอาสาสมัครออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

  • กลุ่ม A :: ได้รับสารสกัดกิงโกะ 120 มก./วัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ จากนั้นให้หยุดยาเป็นเวลา 8 สัปดาห์ แล้วตามด้วยการทานยาหลอก (Placebo) เป็นเวลา 4 สัปดาห์ จำนวน 14 คน
  • กลุ่ม B :: ได้รับยาหลอก เป็นเวลา 4 สัปดาห์ จากนั้นให้หยุดยาเป็นเวลา 8 สัปดาห์ แล้วตามด้วยสารสกัดกิงโกะ 120 มก./วัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ จำนวน 13 คน

โดยทำการทดลองต่อเนื่องป็นระยะเวลา 16 สัปดาห์

3. วิธีวัดผลการทดลอง

วัดผลการทดลองด้วยการตรวจลานสายตา (Visual field examination) โดยประเมินผลจากค่า Corrected pattern standard deviation (CPSD) ซึ่งมีหน่วยเป็นเดซิเบล (dB) หากค่า CPSD สูง แสดงว่า สายตามีความผิดปกติ ลานสายตาเสียหายมากขึ้นนั่นเอง

ภาพแสดงเครื่อง Humphrey Visual Field Analyzer II ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้ตรวจวัดลานสายตาของมนุษย์

เปรียบเทียบผลลัพธ์ของผู้ป่วยทั้งสองกลุ่ม

กลุ่ม A (สารสกัดกิงโกะ > หยุดยา > ยาหลอก)

จะเห็นได้ว่า หลังจากผู้ป่วยกลุ่ม A ได้รับสารสกัดกิงโกะ ค่า CPSD มีค่าลดลง นั่นแปลว่า “ลานสายตาเสียหายน้อยลง” แต่เมื่อหยุดทาน แล้วเปลี่ยนมาใช้ยาหลอก พบว่าลานสายตาเริ่มกลับมาผิดปกติอีกครั้ง

กลุ่ม B (ยาหลอก > หยุดยา > สารสกัดกิงโกะ)

ในขณะที่กลุ่ม B ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับยาหลอกก่อนได้รับสารสกัดกิงโกะ ไม่พบการเปลี่ยนแปลงของลานสายตา แต่กลับพบว่า “ลานสายตาเสียหายน้อยลง” ในระหว่างที่ได้รับสารสกัดกิงโกะ

สรุปผลจากงานวิจัย

เมื่อผู้ป่วยต้อหินได้รับสารสกัดกิงโกะเป็นเวลา 4 สัปดาห์ จะช่วยให้อาการลานสายตาที่ผิดปกติดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากคุณสมบัติของกิงโกะ ที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเส้นประสาทบริเวณดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยฟื้นฟูขั้วประสาทตาที่เสียหาย ทำให้การมองเห็นกลับมาดีขึ้นได้

ที่สำคัญ! ยังไม่พบผลข้างเคียงใด ๆ ที่ส่งผลต่อหัวใจ ความดันโลหิต และระบบประสาทอื่นๆ ในระหว่างทำการวิจัย

ทาน “กิงโกะ” ควบคู่กับการรักษาของจักษุแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก
Effect of Ginkgo biloba Extract on Preexisting Visual Field Damage in Normal Tension Glaucoma [2003]