เชื่อว่าหลาย ๆ คน พอตกบ่ายคล้อย ก็เริ่มมีอาการง่วง อยากนอนหลับสักงี แต่เพราะต้องทำงาน ก็เลยพยายามฝืนความง่วงของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการดื่มกาแฟ หรือล้างหน้าล้างตาให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมา แต่รู้หรือไม่ว่า? การงีบหลับนั่นแหละ เป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะทำให้กลับมากระปรี้กระเปร่าได้ค่ะ

การงีบหลับระหว่างวัน นอกจากจะช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัวขึ้นแล้ว ยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็น…

  • ลดอาการง่วงนอน
  • พัฒนาการเรียนรู้
  • ทำให้ความจำดีขึ้น
  • ช่วยควบคุมอารมณ์
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

แต่การงีบหลับเพื่อให้ตื่นมาแล้วสดชื่นและไม่งัวเงียนั้น ไม่ใช่ว่าจะงีบอย่างไรก็ได้นะคะ วันนี้ Herbitia จึงมีหลักการในการงีบหลับเพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุดมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย!

1. ใช้เวลาในการงีบหลับประมาณ 10 – 20 นาที

การงีบหลับระหว่าง 10 – 20 นาทีนั้น จะเป็นช่วงที่การนอนหลับของเราอยู่ในระยะ Non-Rapid Eye Movement (NREM) ซึ่งไม่ใช่การนอนหลับลึก เมื่อตื่นขึ้นมาจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สมองปลอดโปร่ง สามารถทำกิจกรรมอื่นต่อได้ทันที เป็นระยะเวลาในการงีบหลับที่ช่วยเพิ่มพลังงาน และสร้างความสดชื่นให้กับร่างกายได้ จึงมีชื่อเรียกการงีบหลับแบบนี้ว่า “Power Nap” นั่นเองค่ะ

ถ้าหากเรานอนหลับมากกว่า 20 นาที ร่างกายจะเริ่มเข้าสู่ภาวะหลับลึก ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายตื่นได้ยากที่สุด เมื่อต้องตื่นในระยะนี้ ร่างกายจะรู้สึกอ่อนเพลีย มึนงง และไม่สดชื่นค่ะ

2. ควรงีบหลับในช่วงเวลา 13.00 – 15.00 น.

เพราะช่วงเวลานี้ของทุก ๆ วัน เป็นช่วงที่ร่างกายจะตื่นตัวน้อยที่สุด ทำให้เรารู้สึกง่วง ไม่สดชื่น ซึ่งการที่เราตัดสินใจงีบหลับในช่วงเวลานี้ก็ถือว่าถูกต้องแล้วค่ะ เพราะหากเราพยายามงีบหลับเร็วเกินไป ร่างกายก็อาจจะยังนอนหลับได้ไม่เต็มที่ หรือหากงีบหลับหลังจากนี้ อาจทำให้เรานอนไม่หลับในเวลากลางคืนนั่นเองค่ะ

3. สร้างบรรยากาศให้เหมาะสมกับการนอนหลับ

ควรหาสถานที่งีบหลับที่เงียบ มืด อากาศถ่ายเทสะดวก สิ่งรบกวนน้อย และมีอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการนอนหลับ เพราะจะทำให้เราสามารถนอนหลับได้อย่างรวดเร็วและเต็มที่ แต่ถ้าหากเราต้องการงีบหลับในที่ทำงาน อาจจะใช้ตัวช่วยเป็นผ้าปิดตาหรือที่อุดหู เพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมาะสมก็ได้นะคะ

แต่ห้ามงีบหลับบนเตียงนอนนะคะ เพราะมันจะสบายเกินไป ทำให้หลับนานและตื่นยากขึ้นค่ะ !

4. ดื่มกาแฟสักเล็กน้อยก่อนงีบหลับ

หลาย ๆ คนอ่านข้อนี้แล้ว อาจจะรู้สึกว่ามันดูขัดแย้งกันใช่ไหมคะ แต่มีหลาย ๆ งานวิจัยยืนยันว่า การดื่มกาแฟก่อนงีบหลับ (Coffee Nap) จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าในตอนตื่นนอน ได้มากกว่าการงีบหลับ หรือการดื่มกาแฟเพียงอย่างเดียวค่ะ

นั่นเป็นเพราะปกติแล้วคาเฟอีนในกาแฟจะต้องเข้าไปต่อสู้กับสารแห่งความง่วงที่ชื่อว่า “อะดีโนซีน” แต่การงีบหลับจะช่วยลดปริมาณอะดีโนซีนลงได้ ทำให้คาเฟอีนเข้าต่อสู้กับปริมาณอะดีโนซีนที่น้อยลง คาเฟอีนจึงออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เมื่อตื่นขึ้นมา เราจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่น และพร้อมทำงานได้มากกว่าเดิมค่ะ

ทั้งนี้ อย่าลืมว่าต้องงีบหลับไม่เกิน 20 นาทีนะคะ และกาแฟที่ดื่มควรเป็นกาแฟที่ไม่เติมน้ำตาล ไซรัป และวิปครีมค่ะ เพราะน้ำตาลจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ทำให้ง่วงนั่นเองค่ะ