เบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) หนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมานาน และยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางตาอื่น ๆ อย่าง “วุ้นในตาเสื่อม” เร็วกว่าคนทั่วไปอีกด้วย!
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่เร่งการเกิด “วุ้นในตาเสื่อม” ได้เช่นเดียวกัน อาทิเช่น อายุ สายตาสั้น หรือผู้ที่อยู่หน้าจอเป็นเวลานาน
เบาหวานขึ้นตา เสี่ยง “วุ้นในตาเสื่อม” เร็วกว่าคนทั่วไป
เมื่อเกิด “เบาหวานขึ้นตา” จะทำให้น้ำตาลเข้าไปอุดตันที่เส้นเลือดบริเวณจอประสาทตา (Retina) จนเกิดความเสียหาย
ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยที่จอตาโป่งพอง เกิดจุดเลือดออกเล็ก ๆ กระจายทั่วจอตา รวมถึงเส้นเลือดใหญ่ที่จอตาเริ่มขยายใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เส้นประสาท และจุดภาพชัด (Macula) เริ่มบวม
ทำให้ผู้ป่วยมีอาการตาพร่ามัว เริ่มมองเห็นจุดดำ หรือเส้นคล้ายหยากไย่ลอยไปมา ซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะ “วุ้นในตาเสื่อม” นั่นเอง
วุ้นในตาเสื่อม เกิดจากวุ้นในตาเสื่อมสภาพ หดตัว หลุดลอก กลายเป็นตะกอนขุ่นลอยอยู่ในดวงตาของเรา
นอกจากนี้ เมื่อเส้นเลือดเดิมได้รับความเสียหาย จึงไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติ ทำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทน แต่เป็นเส้นเลือดที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งผนังเส้นเลือดยังไม่แข็งแรงพอ จึงฉีกขาดได้ง่าย ส่งผลให้เลือด และของเหลวต่าง ๆ เช่น น้ำ ไขมัน รั่วซึมออกมาบริเวณวุ้นตา ยิ่งเป็นการเร่งให้ดวงตาเสื่อมสภาพมากยิ่งขึ้น!!
หากเลือดหรือสารน้ำต่างๆ รั่วเข้าสู่จอตา จนเกิดพังผืดดึงรั้งจนจอตาฉีกขาด จะนำไปสู่ภาวะ “จอประสาทตาลอก” มีโอกาสตาบอดถาวรได้ !!
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ >> เบาหวานขึ้นตา เสี่ยงตาบอด จาก “จอประสาทตาลอก”
เบาหวานขึ้นตา ป้องกันได้ !
หากคุณกำลังเผชิญกับภาวะ “เบาหวานขึ้นตา” ควรรีบพบจักษุแพทย์ และหันกลับมาดูแลดวงตาอย่างจริงจัง เพื่อป้องกัน หรือชะลอการเกิด “วุ้นในตาเสื่อม” และโรคตาอื่น ๆ ในอนาคต
โดยวิธีที่ดีที่สุด คงหนีไม่พ้นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อชะลอการลุกลามของ “เบาหวานขึ้นตา”
นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
รวมไปถึงการทานอาหารที่มี “ลูทีน” และ “ซีแซนทีน” สารอาหารบำรุงสายตาที่สำคัญ ที่ช่วยชะลอความเสียหายของจอประสาทตา ชะลออาการเบาหวานขึ้นตาไม่ให้เป็นหนักกว่าเดิม และมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น