โรคต้อต่าง ๆ อย่าง ต้อหิน ต้อกระจก ต้อลม และต้อเนื้อ ล้วนเป็นปัญหาสุขภาพดวงตาที่ควรระวัง! เพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งหากปล่อยปละละเลย ไม่รีบดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจส่งผลให้คุณสูญเสียการมองเห็น หรือตาบอดได้เลยทีเดียว !! 

วันนี้ Herbitia ขอนำเสนอ 4 โรคต้อยอดฮิต ของคนไทย ที่ควรระวัง มาฝากทุกคนกันค่ะ

4 ต้อยอดฮิต ที่ควรระวัง!!

1. ต้อหิน

เป็นโรคตาที่ค่อนข้างพบได้บ่อย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่ความดันลูกตาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ขั้วประสาทตาได้รับความเสียหาย จึงนำไปสู่การเกิดต้อหิน

อ่านบทความ เช็คลิสต์! ใครบ้างมีโอกาสเสี่ยงเป็นต้อหิน คลิกที่นี่ !

ต้อหิน พบมากเป็นอันดับ 2 รองจากต้อกระจก

อาการของต้อหิน จะสังเกตด้วยตาเปล่าได้ยาก แต่คุณจะรู้สึกว่าการมองเห็นของตัวเองเริ่มค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป เช่น

  • การมองเห็นค่อย ๆ แคบลง 
  • เห็นสิ่งรอบตัวไม่ชัดเจน คล้าย ๆ กับมีหมอกมาบัง
  • ปวดตา
  • ตาแดง

นอกจากนี้ ยังทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน

สำหรับวิธีรักษาต้อหิน อาจรักษาด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  • ใช้ยาหยอดตา เพื่อลดความดันในลูกตา
  • ใช้เลเซอร์ จะใช้วิธีนี้เมื่ออาการรุนแรงขึ้น หรือรักษาด้วยยาหยอดตาแล้วไม่ได้ผล
  • การผ่าตัด จะใช้วิธีนี้เมื่อผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมความดันลูกตาด้วยการรักษาวิธีอื่น ๆ ได้

ทั้งนี้ แนะนำให้ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการเฝ้าระวังโรคทางตาที่อาจเกิดขึ้น

2. ต้อกระจก

ส่วนใหญ่ “ต้อกระจก” มักพบในผู้ที่มีอายุตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป สังเกตได้จากการที่มองเห็นสิ่งรอบตัวไม่ชัดเจนโดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีแสงแดดจ้า มองเห็นภาพซ้อน มีอาการปวดตา เลนส์ตามีความขุ่นมัว ไม่ใสอย่างที่ควรจะเป็น

คนเป็นต้อกระจก มักมีเลนส์ตาขุ่นจากการเสื่อมสภาพ

ต้อกระจก มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ดังนี้

  • พันธุกรรม
  • มีประวัติเคยผ่าตัดตา
  • ภาวะแทรกซ้อนจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อหิน การติดเชื้อที่ตา ม่านตาอักเสบ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น
  • ประสบอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนต่อดวงตา
  • การใช้ยาสเตียรอยด์
  • สภาพแวดล้อม เช่น ทำงานตากแดดเป็นเวลานาน การสูบบุหรี่
  • การติดเชื้อหัดเยอรมันตั้งแต่กำเนิดระหว่างอยู่ในครรภ์ของมารดา

การป้องกันต้อกระจก ทำได้ด้วยการพักสายตาเป็นระยะ เว้นระยะห่างในการมองวัตถุให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม ไม่ใกล้และไกลจนเกินไป นอกจากนี้ ควรสวมแว่นกันแดดเมื่อต้องเผชิญกับแสงจ้า เพื่อลดความเสี่ยงการในเกิดต้อกระจก

3. ต้อลม 

ต้อลม คือ ภาวะที่เยื่อบุตาขาวเกิดความผิดปกติ โดยมีลักษณะเป็นแผ่นนูนสีขาวเหลืองอยู่บริเวณเยื่อบุตาขาวใกล้ ๆ ตาดำ มีสาเหตุมาจากดวงตาได้รับรังสียูวีจากแสงแดด รวมถึงลม ฝุ่น ควันจากมลภาวะเข้าตาเป็นเวลานานและต่อเนื่องหลายวัน

ต้อลม เกิดจากดวงตาเผชิญฝุ่น ควัน มล แสงแดด เป็นเวลานาน

สิ่งเหล่านี้ทำให้ดวงตาเกิดการระคายเคือง ตาแห้ง น้ำตาไหล แสบตา จนเกิดการอักเสบ ส่งผลให้บริเวณเยื่อบุตาขาวมีแผ่นนูนสีขาวเหลืองเกิดขึ้น

“ต้อลม” สามารถป้องกันด้วยวิธีง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงไม่ให้ดวงตาเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานาน
  • สวมแว่นกันแดด ใส่หมวก กางร่ม
  • หากรู้สึกตาแห้ง ควรเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยการหยอดน้ำตาเทียม เพื่อลดการระคายเคือง

4. ต้อเนื้อ 

“ต้อเนื้อ” มีสาเหตุและอาการคล้ายกับต้อลม ที่เกิดจากดวงตาได้รับรังสียูวี ลม ฝุ่น ควันเข้าตามากเกินไป แต่จะต่างกันลักษณะของต้อ คือ ต้อเนื้อจะมีลักษณะเป็นแผ่นพังผืดสีแดงคล้ายรูปสามเหลี่ยม ที่แทรกเข้ามายังกระจกตาบริเวณตาดำ

ต้อเนื้อ เกิดจากต้อลมลุกลามเข้ามายังตาดำ สาเหตุการเกิดเหมือนต้อลม

สำหรับผู้ที่เป็นต้อเนื้อ อาจจำเป็นต้องหยอดตาตามที่คุณหมอแนะนำ เพื่อลดการอักเสบ แต่หากต้อเนื้อเกิดการลุกลาม มีขนาดใหญ่ขึ้นจนบดบังการมองเห็น อาจจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อนำต้อเนื้อออก

“หมั่นดูแลดวงตาตั้งแต่วันนี้
เพื่อให้ดวงตาคู่สวยอยู่กับเราไปนาน ๆ นะคะ”