“วุ้นในตาเสื่อม”
เกือบทำลายชีวิตผม…
สวัสดีครับ ผมสุวัฒน์ อยากมาแชร์ประสบการณ์เคยเป็น “วุ้นในตาเสื่อม” ช่วงแรก ๆ ผมไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ เพราะคิดว่าไม่ได้อันตรายอะไร นอกจากสร้างความรำคาญให้ผม แต่พออาการรุนแรงขึ้นเท่านั้นแหละ!! ความคิดของผมก็เปลี่ยนไปเลยครับ
ผมเกือบ “ตาบอด”
จากวุ้นในตาเสื่อม
ผมมองเห็นจุดดำ ๆ คล้ายหยากไย่ลอยไปมา หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ อาการยิ่งแย่ลง ผมเริ่มเห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบเกิดขึ้นในดวงตา มันสว่างจ้าจนแทบมองไม่เห็นอะไรเลย ตอนนั้นผมเครียดมาก ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย และกลัวว่าจะลุกลามถึงขั้นตาบอดได้ !!
ผมจึงตัดสินใจไปหาจักษุแพทย์ คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นอาการของ”วุ้นในตาเสื่อม” ที่พัฒนากลายเป็น “จอประสาทตาลอก”
โดยปกติแล้ว ภายในดวงตาจะมี “วุ้นตา” (Vitreous) เป็นส่วนประกอบ ซึ่งภาวะ “วุ้นในตาเสื่อม” เกิดจากวุ้นตาในตาเสื่อมสภาพ หดตัว หลุดลอก กลายเป็นตะกอนขุ่นลอยอยู่ในดวงตา
วุ้นในตาเสื่อมขั้นรุนแรง (จอประสาทตาลอก)
หากเป็นวุ้นในตาเสื่อมขั้นรุนแรง วุ้นตาที่เสื่อมสภาพจะไปดึงรั้งจอประสาทตา ทำให้จอตาฉีกขาด ซึ่งเรียกว่า “จอประสาทตาลอก” ทำให้มองเห็น 2 สิ่งนี้ ได้แก่
- เห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบเกิดขึ้นในตา เกิดจากแสงมีการหักเหบริเวณจอตาที่เกิดการฉีกขาด
- เห็นเงาดำเหมือนมีม่านมาบัง เนื่องจากแสงเกิดการหักเหบริเวณส่วนที่รั้งจอตา
หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจสูญเสียการมองเห็นถาวรได้
10-20% ของผู้ป่วยที่มีอาการวุ้นในตาเสื่อม และผู้ป่วยที่มีภาวะเบาหวานขึ้นตามักจะมีอาการ “จอประสาทตาลอก” ร่วมด้วย
แต่ถือว่าผมโชคดีมาก ๆ ครับ ที่ได้ลองทาน “เฮอร์บิเทีย ลูทีน” ภายใต้การดูแลของแพทย์
จากการประเมินอาการ คุณหมอบอกว่า “ผมเป็นทั้งวุ้นในตาเสื่อมและจอประสาทตาลอก“ จึงแนะนำให้ทานอาหารเสริมบำรุงดวงตา “เฮอร์บิเทีย ลูทีน” ครั้งละ 2 แคปซูล ทั้งเช้าและเย็น เพื่อชะลออาการ แทนการเลเซอร์ เนื่องจากการเลเซอร์ เป็นเพียงการป้องกันไม่ให้อาการวุ้นในตาเสื่อมลุกลามเท่านั้น!!
การทานเฮอร์บิเทีย ลูทีน 4 แคปซูล/วัน เป็นปริมาณที่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของจักษุแพทย์เท่านั้น
ไม่ได้คาดหวัง
แต่ก็เห็นผลแบบไม่คาดคิด
หลังจากผมทาน “เฮอร์บิเทีย ลูทีน” ไปขวดแรก พบว่ามองเห็นได้ชัดขึ้น เนื่องจากแสงวาบคล้ายฟ้าแลบค่อย ๆ เล็กลง และเลื่อนไปบริเวณขอบดวงตา ซึ่งตอนแรกผมไม่คิดว่าจะเห็นผลเร็วขนาดนี้ และหลังจากทาน “เฮอร์บิเทีย ลูทีน” ขวดที่ 2 ผมไม่เห็นแสงนั้นอีกแล้ว การมองเห็นก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องใส่แว่นสายตาเพื่อช่วยในการมองเห็นเหมือนแต่ก่อน
ขวดที่ 3 และ 4 คุณหมอแนะนำให้ลดขนาดรับประทาน เหลือวันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเย็น เพื่อบำรุงดวงตา และป้องกันไม่ให้กลับมาเป็น “วุ้นในตาเสื่อม” ซ้ำอีก !
“ตอนแรกเป็นทุกข์ ว่าตาจะไม่หาย กลัวเป็นตลอดชีวิต แต่มาหายเพียงเพราะกิน Herbitia Lutein แค่ 4 ขวด”
ผมจึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้กับหลาย ๆ คน ที่กำลังเจอปัญหาเดียวกันกับผม ได้ลองเปิดใจให้กับ “เฮอร์บิเทีย ลูทีน” เพื่อดวงตาของเรากันครับ
– ขอบคุณรีวิวจาก คุณสุวัฒน์ กิจสมัคร–
เฮอร์บิเทีย ลูทีน 1 แคปซูล มีสารสำคัญ ลูทีน 19 มก. และซีแซนทีน 0.95 มก. รวมเป็น 19.95 มก. ซึ่งเป็นปริมาณสูงสุดตามที่กฏหมาย อย.กำหนด และเป็นปริมาณที่ใกล้เคียงกับงานวิจัยที่ให้ผลลัพธ์ว่าการมองเห็นของผู้มีปัญหาการมองเห็น ดีขึ้นได้กว่าเดิมถึง 60%
นอกจากนี้ เฮอร์บิเทีย ลูทีนยังประกอบด้วย สารสกัดจาก “บิลเบอร์รี่” และ “โกจิเบอร์รี่” อีกด้วย