ถ้าคุณเป็นคนนึงที่รู้สึกว่า… โรคเก๊าท์ กำลังสร้างปัญหาให้กับคุณ เพราะมันทำให้คุณมีอาการปวดแดงร้อนที่ข้อ เคลื่อนไหวลำบาก บางครั้งก็ปวดมากจนเดินไม่ได้ หรือแม้แต่ห้ามกินอาหารโปรดของคุณ เพราะมันอาจจะไปกระตุ้นให้ข้ออักเสบและเจ็บปวดมากกว่าเดิม …คุณควรจะอ่านบทความนี้ให้จบ
เพราะโรคเก๊าท์ที่คุณเป็นอยู่ ถ้าหากไม่ไปพบแพทย์ ไม่ดูแลรักษาตนเองให้ดี อาจกระตุ้นให้เกิดโรค “ข้อเข่าเสื่อม”ได้ ซึ่งจะทวีคูณความลำบากและความทรมานในการดำเนินชีวิตเข้าไปอีก !
โรคเก๊าท์ คืออะไร ?
โรคเก๊าท์ (Gout) เป็นโรคข้ออักเสบเฉียบพลันที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากภาวะที่ร่างกายมีกรดยูริก (Uric Acid) ในเลือดปริมาณสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน จนเกิดเป็นผลึกสะสมอยู่ตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย จนทำให้เกิดการอักเสบ และปวดบวมบริเวณข้อต่อต่าง ๆ โดยเฉพาะข้อต่อนิ้วมือและนิ้วเท้าอย่างรุนแรง
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเก๊าท์มีมากมาย เช่น พันธุกรรม การใช้ยาบางชนิด อาหารที่รับประทาน หรือแม้แต่การที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป เป็นต้น
ทำไมผู้ป่วยโรคเก๊าท์ มักเป็น “ข้อเข่าเสื่อม” ร่วมด้วย ?
จากการศึกษาพบว่า โรคเก๊าท์ และ โรคข้อเข่าเสื่อม มักจะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน สำหรับผู้ป่วยเก๊าท์ จะมีการสะสมผลึกกรดยูริก ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบบริเวณข้อต่อต่าง ๆ จนนำไปสู่การเกิด โรคข้อเข่าเสื่อม นั่นเอง
ในทางกลับกัน การเสื่อมสลายของกระดูกจาก โรคข้อเข่าเสื่อม ก็จะไปกระตุ้นการสะสมของผลึกกรดยูริก และทำให้เป็นโรคเก๊าท์ได้เช่นกัน
ข้อเข่าเสื่อม เกิดจากกระดูกอ่อนข้อเข่าสึกหรอ และเสื่อมอย่างช้า ๆ ส่งผลให้มีอาการปวดเข่า ข้อเข่าบวม มีเสียงดังในเข่า และเสียสมรรถภาพในการเคลื่อนไหว
อย่างไรก็ตาม โรคเก๊าท์เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ รวมถึงการดูแลตนเองด้วย วันนี้เราจึงมี 5 เคล็บลับดี ๆ ในการดูแลตนเอง เพื่อบรรเทาอาการของโรคเก๊าท์ และหยุด “ข้อเข่าเสื่อม” ที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา
1. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีพิวรีนสูง
พิวรีน (Purine) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเปลี่ยนเป็นกรดยูริก ดังนั้น ถ้าหากผู้ป่วยโรคเก๊าท์รับประทานอาหารประเภทนี้ ก็จะเป็นการกระตุ้นให้มีอาการปวดตามข้อต่อต่าง ๆ นั่นเอง
4 อันดับ อาหารที่ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยง
- เครื่องในสัตว์
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- อาหารทะเล
- ขนมหวาน
2. ดื่มนมไขมันต่ำวันละแก้ว
มีงานวิจัยพบว่า การดื่มนมไขมันต่ำวันละแก้ว สามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคเก๊าท์ได้ เนื่องจากในนมมีโปรตีนชื่อว่า เคซีน ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนไปเป็นกรดอะมิโนชื่อว่า อะลานีน และกรดอะมิโนตัวนี้จะเข้าไปช่วยให้ไตขับกรดยูริกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
3. ควบคุมน้ำหนัก
เพราะโรคอ้วนมีความสัมพันธ์กับภาวะกรดยูริกในเลือดสูง ดังนั้น การควบคุมน้ำหนักจะช่วยให้ระดับกรดยูริกในร่างกายลดลง นอกจากนี้ยังช่วยให้ข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะข้อเข่า ไม่ต้องรับน้ำหนักมากจนเกินไปจนกลายเป็นข้อเข่าเสื่อม และทำให้อาการอักเสบและความเจ็บปวดลดลงอีกด้วย
4. ลดการรับประทานผลไม้ที่มีรสหวานจัด
หลายคนมีความเชื่อผิด ๆ ว่า น้ำตาลฟรุกโตสจากผลไม้มีประโยชน์ต่อร่างกาย จะรับประทานเท่าไหร่ก็ได้ แต่จริง ๆ แล้ว การรับประทานน้ำตาลฟรุกโตสสูงเกินกว่า 100 กรัมต่อวัน เสี่ยงเป็นโรคอ้วนและโรคเก๊าท์ ที่เป็นสาเหตุของข้อเข่าเสื่อม ดังนั้น คนที่เป็นโรคเก๊าฑ์จึงควรหลีกเลี่ยงหรือรับประทานแต่น้อยค่ะ
5. ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว
วิธีการง่าย ๆ ที่หลายคนหลงลืมไป แต่การดื่มน้ำเยอะ ๆ มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคเก๊าท์ เพราะจะช่วยให้ร่างกายขับสารพิษได้ดี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับกรดยูริก และทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ
“หันมาดูแลตัวเอง จัดการโรคเก๊าท์ หยุดข้อเข่าเสื่อม
ก่อนที่จะสายเกินไปนะคะ”
ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก :
1. Foods High in Purines. [Online]. Available from: https://www.webmd.com/diet/foods-high-in-purines#1 [accessed 23 April 2021.]
2. Gout and OA—What’s the Connection?. (2017). [Online]. Available from: https://bit.ly/3ecwTWi [accessed 17 April 2021.]
3. Milk Products and Gout. [Online]. Available from: https://www.dairynutrition.ca/scientific-evidence/roles-on-certain-health-conditions/milk-products-and-gout [accessed 23 April 2021.]