ต้อหิน (Glaucoma) ถือเป็นโรคตาอันดับต้น ๆ ที่เป็นสาเหตุทำให้คนไทยตาบอดเป็นอันดับ 2 รองจากต้อกระจก พบมากในคนวัย 40 ปีขึ้นไป สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความดันลูกตาที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เส้นประสาทตาเสียหาย นำไปสู่การเกิดต้อหินในที่สุด
การรักษาต้อหินส่วนใหญ่ จะมุ่งเน้นไปที่การรักษาแบบประคับประคองอาการ เช่น การใช้ยาหยอดตา การรับประทานยา เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวังอีกมากมายที่คนเป็นต้อหินจำเป็นต้องรู้! เพื่อไม่ให้อาการแย่ลงกว่าเดิม และคงการมองเห็นให้ได้นานที่สุด จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย
1. ห้ามซื้อยาหยอดตามาใช้เอง และต้องหยอดตาอย่างสม่ำเสมอ
การใช้ยาหยอดตา เป็นหนึ่งในวิธีรักษาต้อหินที่ช่วยลดความดันลูกตาให้อยู่ในระดับปกติ ซึ่งหากตรวจพบว่าเป็นต้อหินแล้ว ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด หยอดยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญ! ไม่ควรซื้อยาหยอดตามาใช้เอง โดยไม่ปรึกษาจักษุแพทย์ เพราะหากยาที่ได้รับ มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้ความดันลูกตาสูงขึ้น อาการของโรคจะยิ่งแย่ลงได้
สำหรับใครที่ลืมหยอดตา ต้องหยอดตาทันทีที่นึกขึ้นได้ เพราะหากหยอดตาไม่สม่ำเสมอ ความดันลูกตาจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ยาหมดฤทธิ์ และทำลายการมองเห็นไปเรื่อย ๆ จนอาจถึงขั้นตาบอดได้
2. ควบคุมโรคประจำตัวอย่างเคร่งครัด
สำหรับผู้ป่วยต้อหิน ที่มีโรคประจำตัวบางโรค เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ต้องดูแล ควบคุมโรคประจำตัวเหล่านี้ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน และควบคุมไม่ให้อาการของโรคต้อหินแย่ลงกว่าเดิม
3. งดเล่นกีฬาบางชนิด เพราะอาจกระทบ ต้อ ได้
จากข้อมูลพบว่า ผู้ป่วยต้อหินส่วนใหญ่สามารถเล่นกีฬาได้แทบทุกชนิด แต่ควรหลีกเลี่ยงกีฬาหรือกิจกรรมบางอย่างที่อาจส่งผลให้ความดันลูกตาสูงขึ้น จนอาการแย่ลงได้ เช่น
-
- โยคะ ควรหลีกเลี่ยงการเล่นโยคะในท่ายืนด้วยศีรษะ (Head stand)
- ยกน้ำหน้ก
- กีฬาที่ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Strength training)
นอกจากนี้ พฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันที่ควรหลีกเลี่ยงคือ การก้มเงยบ่อย ๆ เพราะอาจส่งผลให้ความดันลูกตาเพิ่มสูงขึ้นได้เช่นกัน
4. ระมัดระวังไม่ให้เกิดการบาดเจ็บบริเวณดวงตา
สิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้อีกข้อหนึ่ง คือการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบริเวณดวงตา เพราะอาจทำให้เกิดเลือดออกในช่องหน้าลูกตา และไปอุดทางระบายน้ำ ทำให้เกิดน้ำขังในลูกตา ไม่สามารถระบายออกได้ จนความตันลูกดาเพิ่มสูงขึ้น หรือในกรณีที่ไม่มีเลือดออก เมื่อทิ้งไว้เป็นเวลานาน อาจทำให้ความดันลูกตาสูงขึ้นได้เช่นกัน
5. ห้ามทานอาหารที่มีแร่ธาตุ ซิงค์ (Zinc)
จากการศึกษาพบว่า หากร่างกายได้รับ ซิงค์ (Zinc) หรือสังกะสีมากเกินไป จะทำให้อาการของโรคต้อหินแย่ลงกว่าเดิม โดยซิงค์มีส่วนทำให้เซลล์ที่อยู่ในจอประสาทตาเริ่มตาย และไปขัดขวางการฟื้นฟูเซลล์ประสาทตาที่เกี่ยวข้องกับต้อหิน จึงทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิมได้
6. งดดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง รวมถึงน้ำอัดลม หากได้รับเกินวันละ 200 mg. หรือประมาณ 1 แก้วต่อวัน อาจทำให้ความดันลูกตาสูงขึ้น ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้อาการแย่ลงกว่าเดิม ควรงดการทานเครื่องดื่มเหล่านี้จะดีที่สุด
——————————————————–
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
>>>>บทความ – Herbitia
อ้างอิง
โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน
ภาควิชาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
How you can stay active in glaucoma (2022)
Zinc in the Retina May Indicate A New Way to Protect and Regenerate the Optic Nerve in Glaucoma Patients (2022)