หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า วุ้นในตาเสื่อม แต่รู้หรือไม่ว่า อาการนี้อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด เพราะพบได้ทั้งในเด็ก วัยรุ่น ไปจนถึงผู้สูงอายุ ถึงแม้จะไม่ได้อันตราย แต่ก็อาจนำไปสู่โรคที่ร้ายแรงขึ้นได้ ! วันนี้มาเช็คตัวเองกันดีกว่าว่า สาเหตุวุ้นในตาเสื่อม คืออะไร และเราเสี่ยงจะเป็นกันหรือไม่

5 สาเหตุที่ทำให้เกิด วุ้นในตาเสื่อม - 1

วุ้นในตาเสื่อม คือ เห็นจุดดำๆ เหมือนหยากไย่ลอยไปมา สาเหตุเกิดจากการเสื่อมสภาพ หดตัว และหลุดลอกของวุ้นในตาจนกลายเป็นตะกอนขุ่นลอยอยู่ในดวงตาเรา

5 สาเหตุที่ทำให้เกิด วุ้นในตาเสื่อม - 2

ภาพที่คนทั่วไปเห็น กับ ภาพที่คนเป็นวุ้นในตาเสื่อมเห็น

5 สาเหตุที่ทำให้เกิด วุ้นในตาเสื่อม

5 สาเหตุที่ทำให้เกิด วุ้นในตาเสื่อม - 3

1.อายุ 40 ปีขึ้นไป

จากสถิติพบว่า… คนไทยอายุ 40 ปีขึ้นไป กว่า 14 ล้านคน มีปัญหาวุ้นในตาเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น ทุกส่วนในร่างกายจะเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ “ดวงตา” ก็เช่นกัน

ดังนั้นอาการดังกล่าวจึงเป็นสัญญาณของการเสื่อมสภาพตามธรรมชาตินั่นเอง

5 สาเหตุที่ทำให้เกิด วุ้นในตาเสื่อม - 4

2.สายตาสั้นมากกว่า 400

คนสายตาสั้น เสี่ยงเป็น วุ้นในตาเสื่อม เร็วกว่าคนสายตาปกติเกือบ ๆ 2 เท่า เพราะโครงสร้างดวงตาของคนสายตาสั้นจะอ่อนแอกว่าคนสายตาปกติ  จึงทำให้พบคนสายตาสั้นบางรายมักจะเริ่มมีปัญหาตั้งแต่อายุ 20 ปี

สำหรับปัจจัยการเสื่อมช้า-เร็วขึ้นกับความสั้นของสายตาด้วย เช่น คนที่สายตาสั้น 600 ดวงตาจะเสี่ยงที่เกิดปัญหาเร็วกว่าคนที่สายตาสั้น 400

5 สาเหตุที่ทำให้เกิด วุ้นในตาเสื่อม - 4

3.เบาหวานขึ้นตา

เบาหวานขึ้นตา เสี่ยงเป็นวุ้นในตาเสื่อมเร็วกว่าคนปกติ เนื่องจากน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดบริเวณจอตาจนเกิดความเสียหาย ร่างกายจึงสร้างเส้นเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทน

แต่เป็นเส้นเลือดที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เลือดหรือสารน้ำอื่นๆ รั่วเข้าสู่จอตา ทำให้ดวงตาเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

5 สาเหตุที่ทำให้เกิด วุ้นในตาเสื่อม - 5

4.เคยผ่าตัดต้อกระจก

สำหรับผู้ที่เคยผ่าตัดต้อกระจก จะมีการเปลี่ยนเลนส์ตา โดยใส่เลนส์ตาเทียมเข้าไปแทน จึงเพิ่มโอกาสให้วุ้นในตาหลุดลอก จนเกิดเป็นวุ้นในตาเสื่อมได้

5 สาเหตุที่ทำให้เกิด วุ้นในตาเสื่อม - 6

5.อยู่หน้าจอนานกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน

แสงสีฟ้าจากหน้าจอ เป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิด “จอประสาทตาเสื่อม” ส่วนปัจจัยเร่งให้เกิดวุ้นในตาเสื่อมคือ เมื่อเราเพ่งหน้าจออยู่ และสลับไปมองที่อื่น จะทำให้กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก หากทำบ่อย ๆ เป็นระยะเวลานาน ๆ จะเร่งให้เกิดความเสื่อมก่อนวัยได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่  วุ้นในตาเสื่อมโรคยอดฮิตของคนติดจอ !

หากคุณมีอายุ 40 ปีขึ้นไป และมีปัญหาวุ้นในตาเสื่อม ตามหลักการแพทย์ อาการดังกล่าวจะไม่หายในทันที เพราะดวงตาได้เสื่อมสภาพลงแล้ว

ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพ :

“ดวงตา” ก็เหมือน “รถ” หากไม่ดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ก็พังไว

วิธีเดียวที่ทำได้ก็คือ กลับมาฟื้นบำรุงดวงตาอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารเสริมบำรุงสายตา พักสายตา จำกัดเวลาหน้าจอ สิ่งเหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูดวงตา ไม่ให้เป็นหนักกว่าเดิม และเพิ่มโอกาสในการละลายวุ้นในตาได้

ถ้าหากคุณอายุยังไม่ถึง 40 ปี แต่มีปัญหาแปลว่า ดวงตาของคุณค่อนข้างมีปัญหามาก!! 

สิ่งที่คุณควรทำคือ พบจักษุแพทย์เพื่อหาสาเหตุการเสื่อมก่อนวัย ควบคู่กับการฟื้นบำรุงดวงตาอย่างเร่งด่วน เพื่อชะลอการเสื่อมของดวงตาก่อนวัยอันควร