“ลูทีน” ถือเป็นหนึ่งในวิตามินบำรุงสายตาที่หลายคนนึกถึง และคุ้นหูกันเป็นอย่างดี โดดเด่นเรื่องป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตาและกรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอ
โดยปกติแล้ว เราสามารถพบลูทีนได้ในดอกดาวเรือง และผักผลไม้ที่มีสีเขียวเข้มและสีเหลือง เช่น ผักคะน้า ปวยเล้ง ฟักทอง มะละกอ (คลิกอ่านบทความเพิ่มเติม >> 10 ผักผลไม้ที่มีลูทีนสูง)
จากข้อมูลพบว่า ลูทีนในรูปแบบลูทีนบริสุทธิ์ หรือลูทีนเอสเทอร์ มีประสิทธิภาพดีกว่าลูทีนรูปแบบทั่วไปที่พบได้ตามท้องตลาด ในบทความนี้ Herbitia จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “ลูทีนบริสุทธิ์” ให้ลึกขึ้นไปอีกขั้น ตามไปดูกันเลย
“ลูทีนบริสุทธิ์” คืออะไร? ทำไมถึงเรียกลูทีนบริสุทธิ์
ลูทีนบริสุทธิ์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ลูทีนเอสเทอร์ (Lutein Ester) เป็นลูทีนชนิดแรกจากธรรมชาติ ที่พบได้ในผักผลไม้ที่มีสีเขียวเข้มและสีเหลือง และเป็นสิ่งแรกที่ได้จากการสกัดดอกดาวเรือง จึงเรียกลูทีนประเภทนี้ว่า “ลูทีนบริสุทธิ์”
และด้วยความบริสุทธิ์สูง ทำให้ลูทีนบริสุทธิ์ หรือลูทีนเอสเทอร์ สามารถออกฤทธิ์ฟื้นบำรุงดวงตาได้ดีกว่าและมีประสิทธิภาพดีกว่าลูทีนทั่วไปตามท้องตลาด
กระบวนการสกัด “ลูทีนบริสุทธิ์” เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ลูทีนบริสุทธิ์ หรือลูทีนเอสเทอร์ คือสิ่งแรกที่ได้จากการสกัดดอกดาวเรือง โดยกว่าจะออกมาเป็นลูทีนที่บริสุทธิ์และมีคุณภาพสูงได้นั้น ต้องผ่านกระบวนการสกัดหลายขั้นตอน ที่ต้องอาศัยทั้งความละเอียดและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนี้
- ดอกดาวเรือง เข้าสู่กระบวนการสกัด จนได้ออกมาเป็นสารสกัดดอกดาวเรือง ในสภาพของเหลว
- สารสกัดดอกดาวเรือง ผ่านเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนของเหลวให้เป็นผง ด้วยเครื่อง Spray dry สกัดเข้มข้น จะได้ออกมาเป็น “ลูทีนบริสุทธิ์” หรือลูทีนเอสเทอร์
- ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์คุณภาพลูทีนที่ได้
- ถ้าได้ “ลูทีนบริสุทธิ์เกรดดี” จะถูกส่งต่อไปที่กระบวนการ Beadlet เพื่อเพิ่มความคงตัวและคงประสิทธิภาพ ทำให้ไม่เสื่อมสลายง่าย เก็บรักษาได้นานขึ้น จนได้ออกมาเป็นลูทีนบริสุทธิ์
- ถ้าได้ “ลูทีนเกรดรอง” จะถูกนำไปแปรสภาพด้วยกระบวนการ Esterification จนได้ออกมาเป็นลูทีนทั่วไป
การสกัดลูทีนจากดอกดาวเรือง ถือเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เทคโนโลยีและความใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ลูทีนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลสุขภาพดวงตา
“ลูทีนบริสุทธิ์” เปรียบเสมือนน้ำนมแรกของแม่
น้ำนมแรกของแม่หรือน้ำนมเหลือง (Colostrum) เป็นสารอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เช่นเดียวกับ “ลูทีนบริสุทธิ์” หรือลูทีนเอสเทอร์ ที่ผ่านกระบวนการสกัดจนได้สารลูทีนที่มีคุณภาพสูง และเป็นสารอาหารบำรุงดวงตาที่สำคัญต่อร่างกาย.
ความคล้ายคลึงกัน ระหว่าง “ลูทีนบริสุทธิ์” กับ “น้ำนมแรกของแม่”
- ความบริสุทธิ์
- ลูทีนบริสุทธิ์ : ผ่านกระบวนการสกัดที่มีมาตรฐานสูง ทำให้ได้ลูทีนที่มีความบริสุทธิ์สูง
- น้ำนมแรก : บริสุทธิ์และอุดมด้วยภูมิคุ้มกันสำหรับทารก
- คุณค่าทางโภชนาการ
- ลูทีนบริสุทธิ์ : ช่วยบำรุงดวงตา กรองแสงสีฟ้า และป้องกันอนุมูลอิสระที่มาทำร้ายดวงตา
- น้ำนมแรก : มีสารอาหารที่สำคัญ เช่น Lactoferrin เม็ดเลือดขาว ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- บทบาทสำคัญต่อการเริ่มต้น
- ลูทีนบริสุทธิ์ : เป็นจุดเริ่มต้นและเป็นส่วนประกอบสำคัญในดวงตา ช่วยให้สุขภาพดวงตาแข็งแรง
- น้ำนมแรก : เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่แข็งแรงและมีภูมิคุ้มกัน
“ลูทีนบริสุทธิ์” ดีต่อดวงตาอย่างไร?
1. ช่วยปกป้องจอประสาทตา : ลูทีนมีบทบาทสำคัญในการดูแลจอประสาทตา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของดวงตาที่ทำหน้าที่ในการมองเห็น เมื่อร่างกายได้รับลูทีนในปริมาณที่เพียงพอ จะทำให้ลูทีนไปสะสมอยู่ที่ศูนย์กลางจอประสาทตา (Macula) เพิ่มขึ้น จึงช่วยปกป้องเซลล์จอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม (Age-related Macular Degeneration: AMD) ในอนาคต
2. ช่วยกรองแสงสีฟ้าจากหน้าจอ : หากดวงตาสัมผัสกับแสงสีฟ้า (Blue Light) ทั้งจากหน้าจอสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งหลอดไฟ LED เป็นเวลานานเกินไป จะส่งผลให้ดวงตาเมื่อยล้าและเสื่อมเร็ว โดยลูทีนจะทำหน้าที่คล้าย “แว่นกันแดดธรรมชาติ” ช่วยกรองแสงสีฟ้า และลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับดวงตา
3. ลดอาการตาล้าและตาแห้ง : ในยุคดิจิทัลอย่างทุกวันนี้ ที่เราใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการจ้องจอเป็นเวลานาน ทำให้หลายคนมีอาการตาล้า ตาแห้งตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การทานลูทีนจะช่วยลดอาการดังกล่าว โดยไปเพิ่มการยึดเกาะของชั้น Mucus ทำให้น้ำตายึดเกาะกับดวงตาได้นานขึ้น จึงทำให้ดวงตาชุ่มชื้น และช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อในดวงตา
4. ป้องกันโรคต้อกระจก : โรคต้อกระจก (Cataracts) เกิดจากความเสื่อมของโปรตีนที่อยู่บริเวณเลนส์ตา ทำให้เลนส์ตาขุ่นและแข็งขึ้น การรับประทานลูทีนอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเสริมสร้างเลนส์ตาให้แข็งแรง ทั้งยังช่วยลดการสะสมของโปรตีนที่ผิดปกติในเลนส์ตา
มาถึงตรงนี้แล้ว ทุกคนคงจะรู้แล้วว่า “ลูทีนบริสุทธิ์” เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพดวงตาเป็นอย่างมาก ทั้งในแง่ของการป้องกันและความเสี่ยงในการเกิดโรคทางตาต่างๆ โดยเราสามารถเพิ่มลูทีนให้กับร่างกาย โดยการทานอาหารที่มีลูทีนสูงอย่างผักใบเขียว หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยบำรุงดวงตา และไม่ควรทานน้อยกว่า 10 มก./วัน ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่ได้รับประโยชน์จากการทาน
ทั้งนี้ แนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น พักสายตาเป็นระยะ ใส่แว่นกรองแสงเพื่อถนอมดวงตา ควบคู่ไปกับการทานลูทีนเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยให้เรามีสุขภาพดวงตาที่แข็งแรงในทุก ๆ วันนะคะ
อ้างอิง
Lutein esters from Tagetes erecta (2016